วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ธรรมชาติวิทยาศาสตร์ ในนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

ธรรมชาติวิทยาศาสตร์ ในนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

The Scientific Worldview ในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

วัยรุ่นมีความสนใจในสิ่งที่จับต้องได้มากกว่าปรัชญา พวกเขามีส่วนรวมในการหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และสะท้อนมุมมองวิทยาศาสตร์ในการทำงาน
ยังไม่สายเกินไปที่วัยรุ่นจะเริ่มต้นจัดการกับปัญหาเกี่ยวกับความคงทนของความรู้วิทยาศาสตร์ เขาควรได้รับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้น บางครั้งผลของการเปลี่ยนแปลงทางวิทยาศาสตร์จะทำให้ได้ข้อมูลใหม่ๆ ซึ่งอาจทำให้คิดค้นทฤษฎีที่ดีกว่าเดิม
หลังจากเรียนจบกรด 8 นักเรียนต้องทราบ
• เมื่อศึกษาในสิ่งเดียวกันอาจได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งการขัดแย้งนี้จะตัดสินได้ว่าสิ่งใดสำคัญหรือไม่สำคัญ และสิ่งนี้จะต้องศึกษาต่อ
• ในผลลัพธ์ที่คล้ายกันก็ต้องมีการทดลองซ้ำอีกหลายครั้งก่อนที่จะสรุปผลการทดลอง
• ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มีการเปลี่ยนแปลงหากมีการสังเกตครั้งใหม่ ซึ่งทำให้ได้แนวคิดหรือทฤษฎีใหม่ๆตามมา
• บางครั้งความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เก่าเกินไปก็ยังคงใช้มาถึงทุกวันนี้
• เรื่องบางอย่างไม่สามารถอธิบายด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ และเรื่องในธรรมชาติบางเรื่องไม่สามารถตรวจสอบได้โดยวิธีการสังเกต
• บางครั้งวิทยาศาสตร์จะใช้ในการอธิบายการตัดสินใจทางจริยธรรม แต่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถใช้เพื่อตัดสินความดีงามได้

การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

• นักวิทยาศาสตร์มีความแตกต่างกันในสิ่งที่ศึกษาและวิธีการที่ใช้ในการศึกษา
• การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์มักจะเกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง, การใช้เหตุผลเชิงตรรกะและการใช้จินตนาการในการณ์ตั้งสมมติฐานและคำอธิบายข้อมูลที่เก็บ
• หากตัวแปรในการทดลองเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอก หรือการระบุตัวแปรผิด จะทำให้ผลของการทดลองผิดพลาด
• การทำงานร่วมกันระหว่างผู้สืบเสาะความรู้ จะนำไปสู่การออกแบบการทดลองที่สามารถควบคุมสถานการณ์ หรือตัวแปรทั้งหมดได้
• ผู้สังเกตมักคาดหวังว่าสิ่งที่ตนสังเกตได้เป็นสาเหตุของปรากฏการณ์นั้นๆ
• นักวิทยาศาสตร์ รู้ว่าการตั้งสมมติฐานนั้นอันตรายต่อการทำการทดลอง ดังนั้นในการออกแบบการทดลอง หรือตรวจสอบข้อมูลจึงระมัดระวังในเรื่องอคติ

ความรู้เกี่ยวกับองค์กรวิทยาศาสตร์ ในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

• ความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ต้องอาศัยการลงมือทำของคนหลายประเภทที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน
• สมัยก่อน ผู้ที่มีข้อจำกัดทางการศึกษาจะไม่มีโอกาสเข้าร่วมทำงานในองค์กรวิทยาศาสตร์ เช่นผู้หญิงและคนในชนเผ่าต่างๆ ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ข้ามอุปสรรคนี้มาได้ และได้ทำงานในองค์กรทางวิทยาศาสตร์
• ส่วนใหญ่เรื่องที่เกิดจากความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ หรือสิ่งประดิษฐ์ทางความคิด จะกลายเป็นเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์และทุกคนในโลกสามารถใช้ได้
• นักวิทยาศาสตร์ทำงานในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย องค์กรธุรกิจ อุตสาหกรรม โรงพยาบาลและหน่วยงานของรัฐ ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ฟาร์ม โรงงาน ตั้งแต่ชั้นบรรยากาศจนถึงพื้นมหาสมุทร
• ในการวิจัยเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและมนุษย์ จริยธรรมทางวิทยาศาสตร์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เราต้องบอกให้ทราบเกี่ยวกับความเสี่ยและสิทธิที่สามารถปฏิเสธการเข้าร่วมได้ แต่สัตว์ไม่สามารถปฏิเสธได้ในการทำการทดลองจึงต้องดูแลสัตว์เป็นอย่างดี
• จริยธรรมทางวิทยาศาสตร์ต้องหารให้นักวิทยาศาสตร์ทำงานโดยคำนึงถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักเรียน ชุมชน ไม่ทำอะไรที่เสียงโดยมีความเสียงต่อผู้อื่นและยังไม่ได้รับความยินยอมจากผู้นั้น
• คอมพิวเตอร์กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่า เพราะสามารถจัดเก็บ รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงจัดกระทำข้อมูลต่างๆได้ดีและรวดเร็ว อีกทั้งทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก
• การเก็บบันทึกข้อมูลที่ถูกต้อง การทำการทดลองซ้ำ เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์อื่นและสังคมให้ความเชื่อถือ
• ความสนใจส่วนบุคคลและมุมมองของนักวิทยาศาสตร์จะมีผลต่อการตอบคำถามในสิ่งที่เขาศึกษา
• นักวิทยาศาสตร์มีการติดต่อเชื่อมโยงกับนักวิทยาศาสตร์อื่นทั่วโลก ทั้งทางส่วนตัวและผ่านองค์กรทางวิทยาศาสตร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น